เคล็ดลับการตลาดออนไลน์ในยุค 2025 นี้ง่ายขึ้น เมื่อคุณรู้เทคนิคลับที่นักขายมืออาชีพเขาใช้กัน อย่างเทคนิค micro-moment marketing และ pattern interrupt ที่สามารถเปลี่ยนธุรกิจเล็กๆ ให้สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ได้ง่ายขึ้น! คุณเคยสงสัยมั้ย? ว่าทำไมวิธีขายของออนไลน์ของบางคนถึงทำให้ลูกค้าแห่มาซื้อ แต่บางคนทำแล้วไม่มีใครสน? sitetion and seo จะพาคุณไปดูเทคนิคการตลาดที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนมุมมองการขายให้กับธุรกิจออนไลน์คุณไปตลอดกาล แต่แนะนำว่าควรอ่านให้จบ เพราะถ้าคุณรู้ไม่หมด ไม่รู้ขั้นตอนสุดท้าย เทคนิคนี้จะใช้ไม่ได้ผลและคุณจะเสียโอกาสทองที่ควรรู้ไป!
วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง เทคนิคขายออนไลน์ที่นักขายมืออาชีพไม่อยากให้คุณรู้
รู้มั้ย? จากงานวิจัยด้านพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า การตัดสินใจซื้อเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ คนเราตัดสินใจซื้อของในเวลาแค่ 2-3 วินาทีแรก! ไม่ใช่นาทีหรือชั่วโมงอย่างที่เคยคิด! เคล็ดลับการตลาดออนไลน์ที่สามารถจัดการ 2.3 วินาทีแรกได้ ก็มีโอกาสทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสูงมากและนี่คือจุดที่กำหนดว่า การสร้างแบรนด์ออนไลน์ของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่? เพราะในความเป็นจริงนั้นสมองคนเราตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ก่อน แล้วค่อยหาเหตุผลมาอ้าง การใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเข้ามาช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ จึงต้องเข้าใจจิตวิทยาการขายและทำเข้าใจสมองของมนุษย์ร่วมด้วย สิ่งที่คุณควรรู้เพิ่มเติมก็คือ ไม่ว่าคนเราจะเห็นโฆษณาหรือเนื้อหาใดๆ ก็ตาม สมองจะผ่านกระบวนการ 3 ขั้นตอนแบบอัตโนมัติที่เร็วมาก ดังนี้
ขั้นที่ 1 pattern recognition (0-0.5 วินาที)
สมองจะสแกนหาสิ่งที่คุ้นเคยหรือรูปแบบที่เคยเห็น ถ้าเจอเนื้อหาที่เคยเห็นมาแล้ว ที่มีรูปแบบเดิมๆ ก็จะเริ่มเบื่อและไม่ให้ความสนใจ
ขั้นที่ 2 attention capture (0.5-1.5 วินาที)
ถ้าพบสิ่งแปลกใหม่หรือไม่คาดคิด สมองจะหยุดคิดและเริ่มให้ความสนใจ
ขั้นที่ 3 emotional response (1.5-2.3 วินาที)
สมองจะเริ่มตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อ เช่น หยุดดู, เลื่อนผ่านหรือคลิก ซึ่งดร. robert cialdini ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการโน้มน้าว ได้กล่าวในหนังสือ influence the psychology of persuasion ว่า มนุษย์มักตัดสินใจด้วยอารมณ์ก่อน แล้วจึงหาเหตุผลมาสนับสนุนการตัดสินใจนั้นในภายหลัง ซึ่งหลักการนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของเคล็ดลับการตลาดออนไลน์ ช่วงเวลานี้เป็นวินาทีทองที่จะเข้าถึงจิตใต้สำนึกของผู้บริโภคและถ้าเราพลาดช่วงเวลานี้ไป ลูกค้าจะไม่สนใจเราอีกแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจออนไลน์และนักโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้งควรเข้าใจหลักการนี้ นอกจากนี้แบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น apple, nike, mcdonald’s ต่างใช้เทคนิคการตลาดที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ในเสี้ยววินาที! เช่นกัน

กลยุทธ์การประยุกต์ใช้เคล็ดลับการตลาดออนไลน์กับ micro-moment marketing อย่างเป็นระบบ
ก่อนคุณเลือกใช้เทคนิคการตลาดออนไลน์อย่าง micro-moment marketing อยากให้คุณรู้ทุกขั้นตอนในการเริ่มต้นกันก่อน
ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ target audience
เริ่มต้นด้วยความเข้าใจกลุ่มลูกค้า
รู้พฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย
- เวลาใดที่พวกเขาออนไลน์
- แพลตฟอร์มไหนที่ใช้บ่อย
- ประเภทเนื้อหาที่ตอบสนอง
สร้าง customer journey map แบบละเอียด
- ระบุทุก touch point ที่ลูกค้าเจอแบรนด์
- วัดช่วงความสนใจในแต่ละจุด
- ทดสอบเวลาที่ตอบสนองกับเนื้อหา (response time)
ขั้นตอนที่ 2 ออกแบบ micro-moment strategy
ต้องตัดสินใจ เลือกประเภท micro-moment ที่เหมาะสม
สำหรับ b2b
- ใช้ข้อมูลสถิติที่น่าตกใจ
- ตั้งคำถามเชิงธุรกิจที่ลึกซึ้ง
- สร้างความเร่งด่วนด้วยผลกระทบทางการเงิน
สำหรับ b2c
- ใช้อารมณ์เป็นตัวนำ
- สร้างความสนุกและความแปลกใหม่
- เน้นประโยชน์ส่วนตัว
4 ประเภท micro-moment ที่อยากให้คุณได้รู้จัก
micro-moment marketing ไม่ใช่แค่เรื่อง 2-3 วินาทีแรกในการนำเสนอเนื้อหา แต่เป็นแนวคิดที่ google นำเสนอ เพื่อให้เข้าใจว่าควรทำเนื้อหาแบบไหนถึงตอบสนองลูกค้าที่ใช้มือถือในการค้นหา ในช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการทันที ซึ่งช่วงเวลาแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
i-want-to-know moments (ต้องการหาข้อมูลที่อยากรู้)
i-want-to-know moments คือ ช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการหาข้อมูล แต่ยังไม่พร้อมซื้อ
เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรทำอะไร?
- สร้างเนื้อหาให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์
- เขียนบทความ seo ที่ตอบคำถามของลูกค้า
- ทำวิดีโอสอนหรือ infographic
ตัวอย่าง
- คนค้นหาวิธีดูแลผิวหน้าใส แล้วทางแบรนด์ครีมสร้างเนื้อหาให้ความรู้
- คนค้นหาอาการปวดหลัง แล้วทางคลินิกสร้างเนื้อหาอธิบาย
วิธีใช้ สร้างเนื้อหาให้ความรู้หรือบทความ seo ที่ไม่ได้ขายของตรงๆ
i-want-to-go moments (ต้องการไปที่ไหน)
i-want-to-go moments คือ ช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการหาสถานที่
เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรทำอะไร?
- ปรับปรุง google my business ให้สมบูรณ์
- เพิ่มข้อมูล location และแผนที่
- รวบรวมรีวิวจากลูกค้าที่ดี
ตัวอย่าง
- คนค้นหาร้านอาหารใกล้ฉัน แล้วทางร้านอาหารมี google my business
- คนค้นหาคลินิกใกล้บ้าน แล้วทางคลินิกได้เพิ่ม location ใน google
วิธีใช้ เน้น local seo และทำพิกัดให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผ่าน google maps ได้
i-want-to-do moments (ต้องการทำอะไร)
i-want-to-do moments คือ ช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรทำอะไร?
- วิดีโอ tutorial แบบ step-by-step
- บทความ how-to ที่ละเอียด
- เนื้อหา diy ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
ตัวอย่าง
- คนค้นหาวิธีทำเค้กช็อกโกแลต แล้วทางร้านขายอุปกรณ์ทำเค้กสร้างวิดีโอสอน
- คนค้นหาวิธีออกแบบห้องนอน แล้วทางร้านเฟอร์นิเจอร์สร้าง diy content
วิธีใช้ สร้างเนื้อหาหรือบทความ seo ประเภท how-to และมีการขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
i-want-to-buy moments (ต้องการซื้อ)
i-want-to-buy moments คือ ช่วงเวลาที่ลูกค้าพร้อมซื้อแล้ว
เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรทำอะไร?
- ทำให้กระบวนการสั่งซื้อง่ายและรวดเร็ว
- แสดงข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วน
- มี call-to-action ที่ชัดเจน
ตัวอย่าง
- คนค้นคำว่า ซื้อรองเท้าวิ่ง nike แล้วเว็บไซต์หรือโฆษณามีสินค้าพร้อมลิงก์ซื้อ
- คนค้นคำว่า จองคิวหมอผิวหนัง แล้วทางคลินิกมีระบบจองออนไลน์
วิธีใช้ ทำเว็บไซต์หรือหน้าร้านออนไลน์ที่เน้นความสะดวกในการซื้อหรือเพิ่ม call-to-action ให้กับบทความ
ตัวอย่าง micro-moment แต่ละแบบ
i-want-to-know
คนค้นหา : การลงทุนหุ้นปลอดภัยหรือเปล่า?
ให้ทำ : เนื้อหา 5 ข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนหุ้นที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้
i-want-to-go
คนค้นหา : คลินิกความงามใกล้ฉัน
ให้ทำ : โฆษณาคลินิกความงาม abc ห่างจากคุณแค่ 2 กม. จองคิวออนไลน์ตอนนี้!
i-want-to-do
คนค้นหา : วิธีลดน้ำหนัก 5 กิโลใน 1 เดือน
ให้ทำ : เนื้อหา แผนลดน้ำหนัก 30 วัน พร้อมเมนูอาหาร&โปรแกรมออกกำลังกาย
i-want-to-buy
คนค้นหา : ซื้อครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้ง
ให้ทำ : โฆษณาครีม xyz สำหรับผิวแห้ง ส่งฟรี! สั่งวันนี้รับส่วนลด 20%
สิ่งที่ต้องระวังก่อนทำเคล็ดลับการตลาดออนไลน์ด้วย micro-moment marketing
เรื่องของการไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด! เพราะลูกค้าไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของธุรกิจ เทคนิคการตลาดออนไลน์ที่แสดงตัวตนอย่างจริงใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ! ยิ่งถ้าคุณเล่าเรื่องความล้มเหลว เช่น “ตอนแรกผมขายไม่ได้เลย แต่พอรู้เทคนิคนี้” หรือ “ร้านผมเคยเกือบล้มละลาย แต่แล้วก็” แบบนี้ลูกค้าในยุค 2025 จะให้ความสนใจ แล้วค่อยเสริมเทคนิค micro-moment marketing ในเนื้อหา ทั้งนี้คุณควรได้รู้ข้อควรระมัดระวังในการใช้ ดังนี้
สิ่งที่ธุรกิจออนไลน์มักทำพลาดเมื่อใช้ micro-moment marketing
ทำไมขายของออนไลน์ไม่มีคนซื้อทั้งๆ ที่ธุรกิจออนไลน์ใช้ micro-moment marketing แล้ว ส่วนมากมักมาจากข้อผิดพลาดเหล่านี้
1. ใช้เทคนิคมากเกินไป อย่าใส่ทุกอย่างในโพสต์เดียว คนจะรู้สึกหนักใจ แนะนำให้ใช้ทีละเทคนิค
2. ไม่สม่ำเสมอ ใช้แปบเดียวแล้วเลิก เทคนิคนี้ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง
3. เลียนแบบโดยขาดความเข้าใจในหลักการ เห็นคนอื่นทำได้แล้วผล ก็เลยทำเหมือนกัน
4. ไม่ทดสอบ คิดว่าเทคนิคไหนจะได้ผลแล้วใช้เลย แนะนำให้คุณทดสอบก่อน

เสริมเทคนิคเคล็ดลับการตลาดออนไลน์ pattern interrupt อาวุธลับของแบรนด์ระดับโลก
หลังจากคุณได้รู้จักเคล็ดลับการตลาดออนไลน์แบบ micro-moment แล้ว อยากให้คุณได้รู้จักกับ pattern interrupt ด้วย นี่คือเทคนิคที่ทำให้คนหยุดคิดแบบเดิมและดึงดูดให้มีความสนใจสิ่งใหม่ตรงหน้า โดยการนำเสนอสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาเคยเห็น นี่เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจออนไลน์นำเสนอสินค้าและบริการได้ดียิ่งขึ้น
หลักการทำงานของ pattern interrupt
เทคนิคพื้นฐาน
• เริ่มต้นด้วยคำถามที่ไม่คาดคิด
• ใช้สีหรือรูปแบบที่แตกต่างจากคู่แข่ง
• สร้างการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ
• ใช้เสียงที่ไม่เหมือนใคร มีความโดดเด่น
เทคนิคขั้นสูง
• cognitive dissonance : สร้างความขัดแย้งทางความคิด
• anchoring bias : ใช้ตัวเลขหรือข้อมูลเป็นจุดยึด
• social proof inversion : แสดงความแตกต่างแทนการทำตาม
วิเคราะห์เทคนิคการตลาดที่ทำให้ apple ประสบความสำเร็จ
เทคนิคการตลาดที่ apple นำมาใช้ ไม่เพียงแค่ใช้ pattern interrupt แต่ยังมีกลยุทธ์ขั้นสูงที่น่าสนใจในการขายดังนี้
การรบกวนแบบละเอียดอ่อน (subtle disruption)
- การใช้พื้นหลังสีขาวในโลกที่เต็มไปด้วยสีสัน ทำให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นทันที
- เริ่มด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้คนคิด เช่น คุณเคยรู้สึกว่าโทรศัพท์ช้าไปหรือเปล่า?
- ใช้ความเงียบแทนเสียง ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวน
ธุรกิจออนไลน์เรียนรู้จากกลยุทธ์นี้ได้ยังไงบ้าง?
ธุรกิจออนไลน์ก็สามารถนำหลักการเดียวกันนี้มาประยุกต์ใช้ได้ เช่น apple ที่ไม่ได้แค่ขายโทรศัพท์แบบทั่วไป แต่เขามุ่งเน้นไปที่การขายประสบการณ์และความรู้สึกมากกว่าคุณสมบัติของสินค้า ซึ่งสมองคนเราตอบสนองกับอารมณ์ได้มากกว่าข้อมูลดิบ วิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ที่ได้ผลจึงจำเป็นต้องใช้อารมณ์เป็นตัวนำ เช่น
- แทนที่จะบอกว่า “สินค้าใหม่ของเรา” ลองใช้ “สิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ”
- แทนที่จะบอกว่า “กล้องคมชัด” ลองใช้ “จับภาพช่วงเวลาสำคัญได้สมบูรณ์แบบ”
- แทนที่จะบอกว่า “แบตเตอรี่ทน” ลองใช้ “ใช้งานได้ทั้งวันแบบไร้กังวล”

การประยุกต์ใช้ pattern interrupt กับเคล็ดลับการตลาดออนไลน์
pattern interrupt เป็นเทคนิคการดึงดูดความสนใจ ที่ทำให้ลูกค้าคาดเดารูปแบบไม่ได้ ทำลายสิ่งที่เคยคาดหวังเพื่อให้หยุดคิดแบบเดิมและเริ่มให้ความสนใจกับทางแบรนด์ แบรนด์ไหนที่เข้าใจกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลแบบนี้และใช้เทคนิคนี้อย่างเชี่ยวชาญจะเป็นผู้ชนะในสนามแข่งขันดิจิทัล ถ้าอยากทำได้บ้าง ลองไปดูการประยุกต์ใช้จริงและผลลัพธ์กัน
กรณีศึกษา pattern interrupt ที่ธุรกิจไทยใช้เทคนิคการตลาดออนไลน์นี้สำเร็จ
ตามมาดูกรณีศึกษา การเลือกใช้คำในการทำ pattern interrupt ที่จะทำให้คุณต้องคิดทบทวนและนี่แหละหยุดลูกค้าได้
ตัวอย่างที่ 1 ร้านอาหารออนไลน์
แบบเดิม : หิวข้าวมั้ย??
ใช้ : คุณกินข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
ผลลัพธ์ : เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า click-through rate เพิ่ม
ตัวอย่างที่ 2: คอร์สออนไลน์
แบบเดิม : เรียนการลงทุนกับเรา
ใช้ : ทำไมคนฉลาดบางคนถึงไม่รวย?
ผลลัพธ์ : เพิ่มความสนใจในหลักสูตร conversion rate เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างที่ 3 นายหน้าอสังหาริมทรัพย์
แบบเดิม : ขายบ้าน ขายคอนโด
ใช้ : ทำไมคนรวยถึงไม่ซื้อบ้านเก่า แต่เลือกซื้อคอนโดใหม่
ผลลัพธ์ : การสอบถามรายละเอียด โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นใน 2 เดือน
ตัวอย่างที่ 4 บริษัทรีโนเวทบ้าน
แบบเดิม : รับแต่งบ้าน ปรับปรุงบ้าน
ใช้ : 3 ข้อผิดพลาดที่ทำให้การรีโนเวทบ้านกลายเป็นฝันร้ายและวิธีหลีกเลี่ยงที่ผู้รับเหมาไม่เล่าให้ฟัง
ผลลัพธ์ : ปิดการขายได้ดีขึ้น
ตัวอย่างที่ 5 บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์
แบบเดิม : เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ
ใช้ : เหตุผลที่บ้านคุณดูไม่แพงแม้ใช้ของดีและกฎ 3 สี ที่นักออกแบบเก็บเป็นความลับ
ผลลัพธ์ : ยอดขายออนไลน์เพิ่ม
ตัวอย่างที่ 6 คลินิกความงาม
แบบเดิม : ฉีดโบท็อก ลบริ้วรอย
ใช้ : ทำไมนักแสดงอายุ 50 ดูเหมือน 30 ความลับที่ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตา
ผลลัพธ์ : จองคิวล่วงหน้ามากขึ้น
ตัวอย่างที่ 7 คลินิกลดน้ำหนัก
แบบเดิม : ลดน้ำหนักปลอดภัย
ใช้ : ผู้หญิงคนนี้ลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ออกกำลังกาย แต่วิธีที่เธอใช้ทำให้หมอตกใจ
ผลลัพธ์ : ลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้นใน 3 เดือน
ตัวอย่างที่ 8 ร้านเสริมสวย/สปา
แบบเดิม : นวดหน้า ดูแลผิว
ใช้ : เพื่อนถามว่าทำหน้าที่ไหน? ผิวดูเด็กลง 10 ปี แต่ความจริงคือเธอไม่ได้ทำอะไรแพง
ผลลัพธ์ : ลูกค้าซื้อซ้ำมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 9 โรงเรียนสอนขับรถ
แบบเดิม : สอนขับรถ รับรองสอบผ่าน
ใช้ : ทำไมคนเรียนขับรถ 3 ครั้งยังไม่ผ่าน แต่เธอเรียนครั้งเดียวได้เลย เทคนิคลับจากครูสอนขับรถ 20 ปี
ผลลัพธ์ : การสมัครเรียนเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างที่ 10 ร้านซ่อมโทรศัพท์
แบบเดิม : ซ่อมโทรศัพท์ทุกรุ่น
ใช้ : 5 สัญญาณที่บอกว่าโทรศัพท์กำลังจะพังและทำไมร้าน 90% ไม่บอกความจริงนี้
ผลลัพธ์ : ลูกค้าเดินเข้าร้านมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 11 โรงพยาบาลเอกชน
แบบเดิม : ตรวจสุขภาพครบวงจร
ใช้ : อาการเหล่านี้ดูเหมือนปกติ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งมา เผยความจริงโดยหมอเฉพาะทาง
ผลลัพธ์ : การจองตรวจเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตัวอย่างที่ 12 สถาบันกวดวิชา
แบบเดิม : กวดวิชาครบทุกวิชา
ใช้ : เด็กคนนี้เรียนอันดับท้าย แต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อันดับ 1 วิธีที่เธอใช้ไม่ใช่การเรียนหนักขึ้น
ผลลัพธ์ : มีคนเข้ามาสมัครเรียนมากขึ้น
ความแตกต่าง micro-moment vs pattern interrupt
เคล็ดลับการตลาดออนไลน์ micro-moment กับ pattern interrupt ไม่เหมือนกัน แต่สามารถใช้เสริมกันเพื่อให้ธุรกิจออนไลน์คุณ ปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น โดยทั้ง 2 เทคนิคนี้มีความแตกต่างกันดังนี้
micro-moment marketing
- ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กำลังค้นหาทันที
- ใช้เมื่อลูกค้ามีเจตนาชัดเจน (i-want-to-know/go/do/buy)
- เน้นการให้บริการตามความต้องการ
pattern interrupt
- ทำลายความคาดหวังเพื่อดึงดูดสายตา
- ใช้เมื่อต้องการหยุดลูกค้าให้สนใจสิ่งใหม่
- เน้นการสร้างความแปลกใหม่และความอยากรู้
แถมเทคนิคดึงดูดลูกค้าออนไลน์ให้หยุดเลื่อนดูโพสต์
ธุรกิจออนไลน์ในปี 2025 ยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด สถิติล่าสุดชี้ว่าอีคอมเมิร์ซในไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 23% ต่อปี ตามรายงานของ etda 2024 ทำให้หลายคนหันมาสร้างรายได้ผ่านออนไลน์กันมาก หากคุณอยากสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดลูกค้าออนไลน์ ตาม sitetion and seo ไปดูเทคนิคการตลาดออนไลน์และข้อมูลที่ควรรู้กัน ว่าทำยังไงให้คนหยุดเลื่อนดูโพสต์ของธุรกิจคุณ?
การสร้างเนื้อหาการตลาดที่ทำให้คนไม่เลื่อนผ่าน
การสร้างเนื้อหาการตลาด ที่ดีต้องเข้าใจว่าปัญหาใหญ่ของการขายออนไลน์คือ คนเลื่อนดูเร็วมาก ใน 1 วินาทีคนดู content โดยเฉลี่ย 3-4 โพสต์ แล้วจะทำยังไงให้เขาหยุดที่โพสต์เรา? sitetion and seo จะเผยเทคนิคดึงดูดลูกค้าออนไลน์ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ให้ฟัง
1. ทำสิ่งที่ไม่คาดคิด
- ถ้าทุกคนขายกาแฟด้วยการบอกว่ากาแฟอร่อย แนะนำให้คุณทำต่างด้วยการบอกว่า “ทำไมฉันถึงเลิกดื่มกาแฟ แต่กลับมาดื่มอีกครั้ง?”
- ถ้าทุกคนขายเสื้อผ้าด้วยการโชว์รูปสวยๆ คุณลองเริ่มสร้างจุดเด่นด้วย “เสื้อตัวนี้ทางร้านเกือบจะไม่ขาย เพราะ”
2. สร้างความอยากรู้ต่อ
มนุษย์มีธรรมชาติชอบเรื่องที่ยังไม่รู้จบ เหมือนดูหนังหรือดูซีรีส์ ถ้าเรื่องที่ดูจบฉากแบบค้างคาใจ เรายิ่งอยากดูต่อและนี่คือกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่อยากให้คุณลองปรับใช้
- “วิธีที่ทำให้ร้านผมมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 30 วัน แต่ตอนแรกผมเกือบปิดร้าน เพราะ”
- “3 สิ่งที่เปลี่ยนธุรกิจผมไปตลอดกาล สิ่งแรกคือ”
- “ความผิดพลาดที่ผมทำตอนเริ่มขาย แต่กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีที่สุด”
3. ใช้สีและรูปแบบที่ต่างจากคนอื่น
- ถ้าทุกคนใช้สีสวย คุณลองใช้สีที่ดูแปลกแต่ดึงสายตา
- ถ้าทุกคนโพสต์รูปเดี่ยว คุณลองทำเป็นซีรีส์
- ถ้าทุกคนเขียนยาวๆ คุณลองเขียนสั้นๆ แต่โดนใจ
เลือกทำ seo การตลาดที่เปลี่ยนมุมมองให้ลูกค้าอยากซื้อ
seo คือ การตลาดและการขาย ถือเป็นวิธีขายของออนไลน์ที่ดีและเป็นการตลาดที่คุ้มค่าการลงทุน ทั้งนี้ไม่ควรทำแค่ใส่คีย์เวิร์ด แต่ควรเสริมศิลปะการนำเสนอสินค้าด้วยการเขียนขาย โดยการนำ micro-moment marketing, pattern interrupt และเทคนิคอื่นๆ มาเสริมบทความ seo จะช่วยทำให้เนื้อหาการขายแตกต่างมากขึ้น เช่น
แทนที่จะบอกราคา ลองบอกความคุ้มค่า
“ราคา 1,500 บาท” เปลี่ยนเป็น “ลงทุนแค่วันละ 50 บาท ใช้ได้ทั้งเดือน”
“ส่วนลด 300 บาท” เปลี่ยนเป็น “ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เทียบเท่าค่าน้ำมันรถ 1 สัปดาห์”
แทนที่จะบอกฟีเจอร์ ลองบอกประโยชน์
“รองเท้าน้ำหนักเบา” เปลี่ยนเป็น “เดินทั้งวันไม่เมื่อยเท้า นี่แหละรองเท้าที่คนชอบยืนและเดินบ่อยต้องมี”
“ครีมบำรุงผิว spf 50” เปลี่ยนเป็น “ใครจะเชื่อออกแดดทั้งวันผิวยังสวยเหมือนเดิม”
แทนที่จะบอกปัญหา ลองบอกโซลูชัน
“หุ่นไม่ดี” เปลี่ยนเป็น “เปลี่ยนแปลงภายใน 30 วัน”
“ผิวไม่สวย” เปลี่ยนเป็น “ผิวใสใน 14 วัน”

เสริมจิตวิทยาเคล็ดลับการตลาดออนไลน์ในเฟซบุ๊ก และ google ads
ตามไปดูวิธีใช้จิตวิทยาคำพูดและการเลือกสีในการสื่อสารสำหรับ google ads และ facebook ads
google ads การตลาดที่ใช้สีกับอารมณ์ทำยังไง
หากคุณทำการตลาดด้วย google ads คุณควรทำความเข้าใจเรื่องสีว่ามีผลต่ออารมณ์และการตัดสินใจมากกว่าที่คิด! อย่างที่ร้านฟาสต์ฟู้ดใช้สีแดงเพราะทำให้คนรู้สึกหิวและตัดสินใจเร็วได้มากกว่า
สีแดง : กระตุ้นความรู้สึกเร่งด่วนและการกระทำ (เหมาะกับปุ่ม “ซื้อเลย”)
สีน้ำเงิน : สร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นคง (เหมาะกับข้อมูลสำคัญ)
สีเขียว : ให้ความรู้สึกปลอดภัยและความสำเร็จ (เหมาะกับการรับประกัน)
สีเหลือง : ดึงดูดความสนใจและสร้างความสุข (เหมาะใช้กับข้อความสำคัญที่ต้องการเน้น)
facebook ads คำศัพท์ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
เคล็ดลับการตลาดออนไลน์ในเฟซบุ๊ก หรือ facebook ads คุณควรได้รู้ว่า คำบางคำมีพลังในการโน้มน้าว, กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึก
คำที่ทำให้รู้สึกพิเศษ : คัดสรร, โดยเฉพาะ, สำหรับคุณหรือ vip”
คำที่สร้างความเร่งด่วน : ด่วน, จำกัด, โอกาสสุดท้ายหรือเหลือน้อย
คำที่มอบความน่าเชื่อถือ : พิสูจน์แล้ว, ยืนยัน, รับประกันหรือผ่านการทดสอบ
คำที่กระตุ้นความอยากรู้ : เคล็ดลับ, เปิดเผย, ค้นพบหรือไม่มีใครเคยบอก
สรุป
หากคุณได้เสริมเทคนิคเคล็ดลับการตลาดออนไลน์ micro-moment marketing, pattern interrupt และวิธีขายของออนไลน์ที่ดี เทคนิคอื่นๆ เข้ากับบทความ seo หรือโฆษณาของคุณ จะช่วยให้เนื้อหาคุณสามารถปิดการขายให้กับธุรกิจได้ดีขึ้นแบบไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นี่เป็นเทคนิคที่แบรนด์ใหญ่ใช้กันจริงและที่สำคัญคือ ใครๆ ก็สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องมีเงินทุนหลักแสน สิ่งสำคัญคือ ต้องเริ่มทำวันนี้ เพราะทุกวันที่ผ่านไปคู่แข่งคุณก็กำลังเรียนรู้และพัฒนาเหมือนกัน ทั้งนี้แนะนำให้คุณลงมือทำอย่างมีกลยุทธ์ด้วย แต่ถ้าคุณรู้เทคนิคแล้วแต่ยังไม่มีเวลาทำหรือยังไม่มั่นใจ sitetion and seo พร้อมช่วยคุณเขียนบทความ seo ที่รวมทุกศาสตร์แห่งการเขียนขายเพื่อสร้างแบรนด์ออนไลน์คุณให้ปิดการขายได้มากกว่าเดิม แล้วคุณจะมีบทความ seo ที่เป็นดั่งเครื่องมือช่วยขายของทั้งยามหลับและยามตื่น ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น, เปลี่ยนจำนวนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าและสร้างลูกค้าประจำให้กลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง!