ทำไมบทความคู่แข่งดัง แต่คุณไม่ดัง? ทั้งที่เขียน seo คล้ายกัน

ทำไมบทความคู่แข่งดัง แต่คุณไม่ดัง? ทั้งที่เขียน seo คล้ายกัน

หัวข้อเรื่องที่กำลังอ่าน

คุณเคยสงสัยมั้ย? เขียนบทความ seo เหมือนๆ กัน แต่ทำไม google ดันบทความคู่แข่งขึ้นหน้าแรก! แล้วปล่อยให้เว็บคุณเงียบ, ไม่ดังและแทบไม่มีใครเห็น? คำตอบอยู่ที่ 5 ปัจจัยลับเชิงกลยุทธ์ด้าน seo ที่คุณพลาดไป นี่คือสิ่งที่ google ใช้ประเมินบทความและเว็บไซต์ว่าใครควรได้ขึ้นอันดับสูงกว่า ถ้าคุณยังไม่ได้แก้! คู่แข่งจะดูด traffic, lead และยอดขาย คุณไปหมด! ถ้าคุณอยากรู้เหตุผลที่บทความไม่ติดหน้าแรก google มีความลับหรือเทคนิคอะไร? ให้ติดอันดับ google ได้จริง! sitetion and seo จะเผยให้คุณได้รู้และนี่จะเปลี่ยนบทความของคุณให้มีพลังมากพอและนำหน้าคู่แข่งได้อย่างมั่นใจ!

1. ทำไมบทความคู่แข่งดัง เพราะ authority (domain power) ทำให้เว็บคู่แข่งขึ้นเร็วกว่า

google ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของโดเมน (domain authority-da) เป็นหลัก! นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเนื้อหาเหมือนกันแต่ทำไมบทความคู่แข่งดังกว่า ยิ่งเว็บไซต์ไหนมี da สูง ยิ่งมีโอกาสขึ้นอันดับเร็วกว่าเว็บใหม่ๆ โดยเฉพาะ

  • เว็บไซต์ที่เปิดมานาน! มีบทความเยอะมากและได้รับการแชร์อยู่บ่อยๆ
  • มี backlink คุณภาพจากเว็บใหญ่ เช่น เว็บข่าวหรือมีการทำ pr เพิ่ม
  • ได้รับการอ้างอิงบ่อยจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือทำให้ google เชื่อถือโดยอัตโนมัติ

2. ทำบทความ seo ยังไงให้ติดหน้าแรก ด้วย trust signals (e-e-a-t)

ทำไม google และคนอ่านถึงเชื่อคู่แข่งมากกว่า? e-e-a-t ถือเป็นเฟรมเวิร์กสำคัญที่ google ใช้ประเมินคุณภาพบทความและเว็บไซต์ ว่าเว็บนี้มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน? ถ้าคุณสงสัยว่าทำบทความ seo ยังไงให้ติดหน้าแรก? คุณต้องให้ประสบการณ์จริง (experience), มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น (expertise), มีความรู้ที่น่าเชื่อถือ (authoritativeness) และมีความน่าไว้ใจ (trustworthiness) เพราะ google ใช้เกณฑ์นี้ตัดสินว่าบทความนี้น่าเชื่อถือแค่ไหน? ถ้าเนื้อหาคุณดีแต่ไม่มีหลักฐาน google จะมองว่าขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งสิ่งที่คู่แข่งมักจะมีและทำให้แซงหน้าคุณได้ คือ

  • การอ้างอิงแหล่งข้อมูล (citation), การวิจัยหรือค้นคว้ามาอย่างดี (research) หรือการยกตัวอย่างกรณีศึกษาจริง (case study)
  • มีการใช้หลักฐานยืนยัน (proof) ที่น่าเชื่อถือ เช่น อย., fda หรือ ce
  • รีวิวจากผู้ใช้จริงหรือประสบการณ์ตรงของลูกค้าที่เคยใช้จริง (real user review), หลักฐานทางสังคม (social proof) ว่ามีคนให้การยอมรับมากแค่ไหน?
  • ประวัติผู้เขียนที่แสดงความเชี่ยวชาญ (author bio) ในส่วนท้ายของบทความ เพื่อให้รู้ว่าเขาเป็นใคร ทำไมถึงควรเชื่อ!

3. content distribution ไม่ใช่แค่เขียน แต่ต้องกระจาย

seo strategy ของคู่แข่งไม่ได้หยุดที่การเขียน แต่กระจายคอนเทนต์หลายช่องทาง (content distribution) เช่น เพื่อทำให้บทความมีปริมาณคนเข้าเว็บไซต์เพิ่ม (traffic), เกิดการบอกต่อหรือการแชร์ (share), ใช้เวลาอยู่บนหน้าเว็บไซต์นาน (dwell time) และทำให้ google มองเห็นว่าบทความนี้ฮอตจัง! ด้วยวิธีดังนี้

  • ยิง ads เพื่อดันคนเข้าอ่าน
  • แชร์ใน social media, กลุ่มเฉพาะ, tiktok, ig reel, lemon 8, thread, youtube หรือแม้แต่แชร์บนเฟสบุ๊ค
  • ทำ pr link เพื่อสร้างกระแส ผ่านเว็บไซต์ข่าวหรือสื่อออนไลน์เจ้าใหญ่ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือสูง (domain authority-da) หรือที่คุณมักเรียกกันว่า backlink เช่น เว็บข่าวไทยรัฐ, กรุงเทพธุรกิจหรือ manager online
  • ส่ง email หรือส่ง newsletter รายสัปดาห์หรือรายเดือน เพื่อให้คนที่เคยติดตาม (subscribe) กลับมาอ่านซ้ำสร้างการมีส่วนร่วมหรือตอบโต้ (engagement) ให้เว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง

4. content design & user experience (ux) ทำให้คนอ่านไม่หนี

ถ้าคุณยังคิดถึงแค่คีย์เวิร์ด คุณอาจพลาดโอกาสสำคัญไป เพราะหลายครั้งเวลาเขียนบทความ seo แล้วไม่ดัง นั่นเพราะ ux ไม่ดี ทำให้คนปิดเว็บเร็วเกินไป ซึ่งสิ่งที่ google ให้ความสำคัญคือ การจับสัญญาณพฤติกรรมผู้ชมเว็บไซต์อย่างใกล้ชิด ว่าเขาอ่านง่ายมั้ย, เข้าใจเร็วหรืออ่านจบหรือเปล่า? วิธีดึงอันดับกลับมาเป็นของคุณ ลองเช็กตามนี้!

มีอัตราการออกจากเว็บเร็ว (bounce rate สูง)

บทความตอบโจทย์ google มั้ย? ดูจากผู้ชมว่า ถ้าเขาเข้าเว็บไซต์แล้วปิดเร็ว google จะเข้าใจว่า มีคนเข้ามาแล้วแต่ไม่เจอสิ่งที่ต้องการ มีอัตราการออกจากเว็บเร็ว (bounce rate สูง) นี่คือสัญญาณลบ

เช่น คนค้นคำว่า “ฟิลเลอร์เกาหลีราคา” แต่เข้ามาแล้วเจอบทความที่พูดแต่เรื่องประวัติฟิลเลอร์ ไม่มีราคาให้ดูเลย ทำให้คนคลิกออกเว็บไซต์ทันทีหรือเกิดอัตราการออกจากเว็บเร็ว (bounce rate สูง)

ในทางกลับกัน ถ้าบทความเปิดมาแล้วเจอราคา, มีโปรโมชันและรีวิวให้ครบ ก็ทำให้คนอยู่ต่อและอยู่นานที่หน้าเว็บไซต์นั้นหรือมีการคลิกอ่านต่อหรือทักแชตต่อ นี่คือสัญญาณบวกที่บอกว่าคนชอบอยากอยู่ต่อ (bounce rate ต่ำ) สื่อถึงบทความตรงเจตนาการค้นหา (search intent) ยิ่งคนดูอ่านนานและมีการเลื่อนลงดูข้อมูลลึกๆ ยิ่งดี นี่ทำให้มีโอกาสขึ้นอันดับได้ดีขึ้น!

search intent (เจตนาการค้นหา) คืออะไร?

search intent คือ ความต้องการจริงๆ ของคน เช่น เวลาพิมพ์คำค้นหาลงใน google ทาง google ก็คัดบทความที่ตอบตรงเจตนาคนค้นหามากที่สุดให้ขึ้นอันดับดีๆ และถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ นี่คือเคล็ดลับทำบทความให้ขึ้นอันดับ google สำหรับเว็บใหม่ได้เร็วมาก

ประเภทของ search intent หลัก ๆ

เมื่อคุณรู้ประเภทของ search intent จะช่วยให้คุณทิ้งระยะห่างจากคู่แข่งได้แบบเห็นผลจริง ให้ทำบทความ seo ที่ตอบโจทย์คนอ่าน ดังนี้

  • informational (หาความรู้) เช่น ฟิลเลอร์คืออะไร?
  • navigational (หาชื่อ/แบรนด์เฉพาะ) เช่น ชื่อแบรนด์ official site
  • transactional (พร้อมซื้อ) เช่น ฟิลเลอร์เกาหลีราคา
  • commercial investigation (เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ) เช่น รีวิวฟิลเลอร์เกาหลี vs อเมริกา

ทั้งนี้คู่แข่งคุณไม่ใช่แค่ทำให้บทความอ่านง่ายแต่ยังปรับสิ่งเหล่านี้

ถ้าคุณอยากครองคีย์เวิร์ดเอาไว้แน่นๆ แบบที่คู่แข่งก็ทำอะไรคุณไม่ได้ ให้คุณลองปรับเพิ่ม ดังนี้

  • จัด layout ให้ดี! มี bullet, ใช้ table นำเสนอเนื้อหา, มีการใช้รูป info-graphic
  • หน้าเว็บไซต์โหลดเร็ว! เป็นมิตรกับมือถือ (mobile friendly)
  • มีภาพประกอบหรือ video ประกอบ

5. keyword strategy ครอบคลุม intent มากกว่า

หัวใจที่ทำให้คู่แข่งทำบทความ seo ชนะคุณ คือการใช้ keyword strategy ที่ไม่ได้หยุดแค่คีย์เวิร์ดหลัก แต่ยังครอบคลุมทุก leyer user intent หรือใช้คีย์เวิร์ดที่คนมักค้นหาใน google อย่างครอบคลุม! ดังนี้

  • main keyword (คีย์เวิร์ดหลัก) เช่น คุณเลือกใช้คำว่า “ฟิลเลอร์เกาหลี” เป็นคีย์หลัก
  • related keyword (คีย์รองหรือคำที่เกี่ยวข้องกับคีย์หลักหรือคำที่ใช้ทำหัวข้อย่อย) เช่น ฟิลเลอร์เกาหลีราคา, filler korea รีวิวหรือฟิลเลอร์เกาหลีดีมั้ย?
  • lsi keyword (latent semantic indexing) คำใกล้เคียงที่ใช้แทนคีย์หลัก เพื่อให้ google มองว่าไม่ได้ใช้คีย์หลักมากเกินไป เช่น สารเติมเต็ม, ไฮยาลูรอนิก, ปรับรูปหน้า, ลดริ้วรอยหรือคลินิกความงาม
  • long-tail keyword คีย์เวิร์ดยาวๆ ที่คนชอบถาม เช่น ฟิลเลอร์เกาหลีอยู่ได้กี่เดือน, ฟิลเลอร์เกาหลี vs ยุโรป ต่างกันยังไง? หรือฟิลเลอร์เกาหลียี่ห้อไหนดี 2025
  • people also ask (paa) ช่วยให้บทความมีคำถามและคำตอบ (q&a) ครบ! ยิ่งทำให้คนอ่านได้คำตอบมากเท่าไหร่? ยิ่งส่งผลดีต่อ seo และติดอันดับได้สูงกว่าเท่านั้น! เช่น ฟิลเลอร์เกาหลีอันตรายมั้ย?, ฟิลเลอร์เกาหลีแต่งหน้าได้มั้ย? หรือฉีดฟิลเลอร์เจ็บมั้ย?

ทำไมบางเว็บเพิ่งเปิดใหม่ แต่ติดหน้าแรก google ได้เลย ทั้งที่ไม่ได้ทำ seo อะไรเลย?

เว็บใหม่ทำไมติดอันดับได้ทั้งที่ไม่ได้ทำ seo! จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย แต่เพราะเจอคีย์ที่คู่แข่งยังไม่ทำ, เขียนตรงกับ intent, ได้กระแส engagement จาก social หรือ google แค่กำลังลองดันเพื่อเก็บ data ซึ่งบางทีคุณอาจรู้สึกสงสัยว่าทำไมเว็บเปิดใหม่บางเว็บ ไม่เห็นทำ seo อะไรเลย แต่กลับติดหน้าแรก google ได้ ทั้งๆ ที่คุณทำเต็มระบบยังไต่ขึ้นยาก แบบนี้ google มีเกณฑ์ตัดสินยังไง?

1. niche keyword & competition ต่ำ

คุณไม่จำเป็นต้องผลักคู่แข่งคุณลง เพื่อให้คุณขึ้นไปแทนที่ แค่คุณรู้เรื่องนี้ก็พอ

  • เขียนบทความโดยใช้ คีย์เวิร์ดเจาะจง (long-tail keyword) หรือเป็น คำที่คู่แข่งไม่ค่อยทำ
  • google จะให้โอกาสบทความใหม่ๆ ขึ้นอันดับเร็ว เพราะยังไม่มีเว็บใหญ่ๆ มาตอบโจทย์คีย์นั้น เช่น ใช้ “ครีมกันแดดสำหรับเด็กแรกเกิดที่แพ้ง่าย” (คีย์เวิร์ดยาวที่คู่แข่งทำไม่เยอะ)

2. freshness factor (ความสดใหม่ของคอนเทนต์)

ขับเคลื่อนเว็บไซต์ไปในจุดที่คู่แข่งทำไม่ได้แบบคุณ เพียงแค่คุณต้องเร็วกว่า

  • google ชอบบทความใหม่สำหรับหัวข้อ (topic) ที่มาแรงหรือข่าวสารล่าสุด
  • ถึงเป็นเว็บใหม่ แต่ถ้าเขียนเรื่องที่กำลังเป็นกระแส google ใจดีช่วยดันขึ้นมา เพื่อทดสอบว่าคนชอบอ่านจริงมั้ย? เช่น ช่วงที่มีฟิลเลอร์แบรนด์ใหม่เข้าไทย เว็บไซต์ไหนหรือเว็บใหม่ที่ทำรีวิวเร็วกว่า ก็มีสิทธิ์ติดอันดับก่อน!

3. user engagement (สัญญาณจากคนอ่านจริง)

นี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำให้แบรนด์คุณโดดเด่นจนคู่แข่งต้องรีบปรับตัวตาม

  • ถึงจะไม่ทำ seo แต่ถ้าบทความมีคนแชร์เยอะ, มีคนคลิกเข้าอ่าน, อยู่ในเพจนานหรือไม่คลิกออกเร็วก็ติดอันดับได้ง่ายๆ
  • ยิ่งมีการกระจายผ่าน social media, tiktok, line หรือ ig ทาง google จะมองว่าบทความนี้มีคุณค่า เพราะคนอ่านให้ความสำคัญ! จึงดันอันดับให้สูงขึ้น!

4. on-page seo แบบธรรมชาติ

บางทีเจ้าของเว็บไม่รู้ตัวว่าโดยส่วนมากหน้าเว็บไซต์คุณมักมีอยู่แล้ว

  • คุณเผลอตั้ง title ชัดและมี keyword อยู่แล้วโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • คุณบังเอิญเขียนบทความตอบคำถามตรงๆ แล้วไปตรงกับสิ่งที่คนค้นหาพอดี (search intent)
  • คุณใช้ heading, bullet หรือมีรูปภาพ ที่ทำให้บทความอ่านง่าย สิ่งเหล่านี้คือ on-page seo โดยธรรมชาติ แม้บางทีคุณทำไปโดยไม่รู้ตัว

5. google sandbox & test run

สำหรับเว็บใหม่ google มักจะมีการทดสอบ (test run) โดยดันบางบทความขึ้นอันดับชั่วคราว เพื่อดูว่า

  • จำนวนคนคลิกเข้ามาอ่านผ่าน google กี่% (click-through rate-ctr) เป็นยังไง?
  • คนอ่านชอบจริงมั้ย? ถ้าคนหยุดดูนาน อันดับก็อยู่ต่อ แต่ถ้าไม่อันดับก็จะค่อยๆ ตกอย่างรวดเร็ว!

checklist ก่อนปล่อยบทความต้องเช็กอะไร?

สร้างความได้เปรียบให้กับบทความ seo คุณ จนคู่แข่งตามคุณไม่ทัน ลองเช็คลิสต์ดังนี้

  • มี authority signal : backlink, pr และ external proof
  • มี trust signal : รีวิว, citation และถ้าเป็นไปได้เพิ่มผู้เขียนและเขียน author bio ที่เกี่ยวข้อง
  • มี distribution plan : ads, social และทำ pr link
  • ux ดี : เว็บโหลดเร็ว, เป็นมิตรกับ mobile, มี table และมี infographic
  • keyword ครอบคลุม : main, related, lsi, long-tail และ paa
  • ใส่อารมณ์และความรู้สึกในงานเขียน : เปิดเรื่องยังไง? มี cta (call to action) ที่แตกต่าง

สรุป

บทความ seo จะดัง ไม่ใช่แค่เพราะเขียนดี! แต่เพราะครบทุกมิติที่ google และผู้อ่านต้องการ! ถ้าคุณอยากแซงคู่แข่งและขึ้นหน้าแรก google ได้จริง ต้องบอกตามจริงว่าวิธีลัดไม่มี! คุณต้องศึกษาการเขียนเชิงกลยุทธ์, สร้าง authority และ proof ที่น่าเชื่อถือ, เสริม trust ด้วยข้อมูลจริงและรีวิวจากผู้ใช้, กระจายบทความให้เกิด engagement ไม่ใช่แค่ปล่อยไว้เฉยๆ, ออกแบบ ux ที่ทำให้คนอยากอ่านจนจบ, ใช้ keyword strategy ครอบคลุม intent แต่ถ้าคุณไม่พร้อม ไม่เป็นไร ถ้าไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูกเองแบบที่ ceo ระดับท็อปส่วนใหญ่เลือกทำ ก้าวนำคู่แข่งในทุกการค้นหาไปกับ sitetion and seo ช่วยคุณสะสมบทความ seo คุณภาพสูง เพื่อให้คุณมี digital asset ที่สร้างทราฟฟิกและผลลัพธ์รายได้ที่ยั่งยืนให้คุณ เพราะความต้องการคุณอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา ที่นี่ช่วยให้คุณให้ขึ้นเป็นตัวจริงบน google ครอบครองพื้นที่หน้าแรกแทนคู่แข่งคุณ!

ผู้เขียน

  • BeeBee Sucha

    บางทีคุณก็ไม่ต้องการกำลังใจใดๆ หรือความช่วยเหลือจากใคร คุณแค่ต้องการความมหัศจรรย์ในชีวิต ได้เข้าถึงความลับบางอย่าง เพื่อเปลี่ยนบางสิ่งในตัวคุณ เมื่อคุณรู้มากขึ้น คุณจะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ออกมาได้มากมายและบทความที่คุณพึ่งได้อ่านไป มาจากนักเขียนแบรนด์ชั้นนำ เบื้องหลังการตลาดแบบ SEO แบรนด์ดังมากมายที่ติดอันดับ google กว่า 5,900 บทความ ที่คุณสามารถเสิร์ชเจอได้ในอันดับแรกๆ เขียนด้วยความชื่นชอบ กรั่นกรองออกมาจากทัศนคติที่เน้นหลักการมีความสุขในชีวิต, เป็นคนมี Empathy สูงและจุดแข็งเดียวที่มี คือ ความเข้มแข็ง! เพื่อให้บทความนี้ สร้างความแตกต่างทางความคิดและปลดล็อกคุณได้!
    คุณสามารถสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้นักเขียนคนนี้!
    ได้ที่ ธนาคาร TTB (ทหารไทยธนชาต) 485-212-2516 สุชาณัฏฐินี ปภาณพสิษฐ์

    View all posts
Scroll to Top
500x192-Logo-sitetion-for-gdpr
ภาพรวมความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้เราสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่คุณ
ข้อมูลคุกกี้จะถูกเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและทำหน้าที่ต่างๆ
เช่น จดจำคุณเมื่อคุณกลับมาที่เว็บไซต์ของเรา
และช่วยให้ทีมของเราเข้าใจว่าส่วนใดของเว็บไซต์
ที่คุณพบว่าน่าสนใจและมีประโยชน์มากที่สุด